
วันเดียว เที่ยวนครนายก
ทริปนี้เป็น 1 Day ทริปอีกแล้วนะครับ เพราะช่วงนี้เวลาของเราจำกัดเลยไม่สามารถหนีเที่ยวระยะยาวได้ ทริปนี้เราไปเที่ยวนครนายกกันครับ ตอนแรกตั้งใจว่าจะไปเที่ยว "อุทยานพระพิฆเณศ" เพียงแห่งเดียว แต่ไหนๆไปแล้วก็เที่ยวให้คุ้มดีกว่า
เริ่มจากอุทยานพระพิฆเณศนะครับ อุทยานพระพิฆเณศสร้างขึ้นและเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2551 นอกจากมีพระพิฆเนศองค์ใหญ่ที่สุดแล้ว ยังมีพิพิธภัณฑ์พระพิฆเนศ 108 ปาง ให้ชมและสักการะบูชาด้วยครับ
เราไปกันวันอาทิตย์ผู้ที่ไปสักการะจึงมีจำนวนมาก กลิ่นธูป เทียน คลุ้งไปหมดทั้งบริเวณเลยครับ
ภายในบริเวณจะมีองค์พระพิฆเณศปางต่างๆอยู่ทั่วบริเวณ บางปางเราต้องยอมรับตามตรงเลยครับว่าไม่เคยเห็นจริงๆ
และมีช้างชื่อน้องดอกไม้คอยถ่ายรูปรับแขกอยู่ด้วยครับ แต่ดูท่าทางน้องดอกไม้จะไม่ค่อยสบายเพราะอากาศร้อนคนก็เยอะ เลยหน้าตาบอกบุญไม่รับเลยครับ น่าสงสาร...
ตรงลานด้านหน้าจะมีหนูตัวใหญ่ สำหรับให้หนูไปเตือนถึงสิ่งที่ขอกับพระพิฆเณศเวลาบอกให้หนูไปเตือนต้องกระซิบที่ข้างหูและปิดหูอีกข้างไว้ไม่ให้หนูรับฟังเสียงอื่นนอกจากเรา....
ออกมาด้านหน้าก็ยังมีตลาดให้จับจ่าย ของก็มีหลากหลายชนิดตั้งแต่ผลไม้ ต้นไม้ ของกิน เอาเป็นว่าตั้งแต่สากกระบือ ยันเรือรบ ก็ไม่ผิด
พอออกจากอุทยานพระพิฆเณศเราก็ไปต่อกันที่ "น้ำตกนางรอง" ครับ ที่เลือกไปต่อที่น้ำตกนางรองเพราะเคยอ่านหนังสือของเหม เวชกร ในชุดเปิดกรุผีไทย เป็นเรื่องราวความรักที่ชายหนุ่มมาทำไร่รอหญิงคนรักจนวันสุดท้ายของชีวิต
ในเรื่องบรรยายว่าอยู่ใกล้บริเวณน้ำตกนางรอง เราเลยอยากจะเห็นน้ำตกนางรองว่าบรรยากาศจะงามจับใจขนาดไหน...
"น้ำตกนางรอง" เป็นน้ำตกขนาดกลาง อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตั้งอยู่ที่ตำบลหินตั้ง อำเภอเมืองห่างจากตัวเมืองไปทาง ทิศตะวันออกประมาณ 20 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 3049 เป็นน้ำตกที่ลดหลั่นลงมาเป็นชั้นไม่สูงมากจนเกินไป
มาถึงด้านหน้าเราต้องเดินเท้าขึ้นไป ระยะทางเรียกเหงื่อได้ดีทีเดียวครับ แต่วิวต้นไม้เขียวๆ ข้างทางกับผีเสื้อสีสวยที่บินอยู่ทั่วไป ก็ทำให้เดินเพลินดีเชียวครับ...
ถึงน้ำตกแล้วครับ...
ตรงนี้เค้ามีป้ายบอกว่าอันตรายห้ามเล่นน้ำบริเวณนี้ครับ แต่คนเล่นตรึม...
จุดนี้เราเดินลงมาด้านล่างจะเจอร้านอาหารริมน้ำตกเลยครับ ตั้งเรียงรายเต็มไปหมด ส่วนมากที่มาจะเป็นครอบครัวพาเด็กๆมาเที่ยวเล่นน้ำเป็นส่วนใหญ่
มีชมรมนักวาดภาพมาวาดรูปน้ำตกกันเป็นกลุ่มเลยครับ...
ตรงนี้เป็นอีกจุดที่มีเด็กๆเล่นน้ำกันมาก และจะมีเชือกที่ขึงไว้จากฝั่งด้านขวา ไปถึงด้านซ้าย และบนเชือกจะผูกปมไว้เป็นระยะ เพื่อใว้เป็นที่จับยึดเวลาเล่นน้ำ
"เขื่อนขุนด่านปราการชล" ข่าวตอนนี้เค้าบอกว่าน้ำลดลงกว่าปีก่อนๆมาก จนทำให้ต้องผลิตฝนเทียมเพื่อเก็บกักน้ำเข้าเขื่อนกันเลยทีเดียวครับ
เราไม่เคยไป "เขื่อนขุนด่านปราการชล" เลยไม่รู้ว่าปกติน้ำมันจะขึ้นมาถึงบริเวณไหน แต่เท่าที่ดูจากสายตาน้ำลดกว่าระดับที่ควรจะมีไปเยอะเลยครับ...
มองไปมองมาวิวเมืองไทยของเราสวยไม่แพ้ใครๆเลยนะครับ เมื่อไม่นานมานี่เรามีโอกาสได้คุยกับชาวต่างชาติจากประเทศแถบยุโรปเค้าบอกว่าเมืองไทยเรานี่เป็นเหมือนสวรรค์สำหรับเค้าเลยครับ เพราะอากาศก็ดี คนใจดี แต่เสียดายที่เรามักมองข้ามสิ่งที่อยู่ใกล้ๆตัวเสมอ...
งามใช่ไหมครับ...
วันนี้ที่เราตะเวนไปเที่ยวดูวิวเราชอบวิวที่นี่มากที่สุด เพราะสวยบรรยากาศดีลมโชยตลอด นั่งมองเพลินดี เราว่าเขื่อนนี่สวยแบบเยือกเย็นดี คือทั้งสวย และน่ากลัวปนๆกันไป
วิวสีเขียวบนเขาข้างๆเขื่อนครับ...มีน้ำที่ไหนต้นไม้ก็อยู่ที่นั้น... พอชื่นชมวิวจนอิ่มหนำดีแล้วเราก็เปลี่ยนบรรยากาศไปหาความตื่นเต้นด้วยการไปขับ ATV ครับ...
สนนราคาอยู่ที่รอบละ 500 บาท (ประมาณ 1 ชั่วโมง) จะมีหลากหลายร้านให้เลือกตั้งแต่ราคา 100 บาทเป็นต้นไปครับ คือแล้วแต่ระยะทางที่วิ่ง บางร้านจะวิ่งแค่ระยะทางสั้นๆ ซึ่งเราดูแล้วมันไม่ค่อยมีอะไที่เราเลือกเส้นทางจะมีผ่านธารน้ำตก หน้าผาสูงประมาณหนึ่ง สวนส้มโอ ชุมชนชาวบ้าน แล้วก็ฟาร์มกวาง
ตอนเราขับจะมีคนคอยนำทาง และคอยดูแลเวลาต้องผ่านทางที่ชันมากๆ หรือลำบากมากๆ แต่ก็มันส์อยู่เพราะเส้นทางมันสุดๆจริงๆ แต่จุดที่น่าตื่นเต้น เช่นลงหน้าผา ลุยลำธาร เราถ่ายมาให้ดูไม่ทันครับ เพราะลุ้นจนตัวเกร็งไปหมดไม่มีเวลามาคิดเรื่องถ่ายรูปเลย แต่ไปดูในวิดีโอได้นะครับ...
กวางพวกนี้น่ารักมาก...แต่น้องคนนำทางเล่าให้ฟังว่า กวางพวกนี้เค้าเลี้ยงไว้ขาย ทั้งขายเนื้อ ขายเขา ขายหัว....
น่าสงสารมากครับ ตาใสๆในโลกเราสิ่งที่ใจร้ายที่สุดก็คือมนุษย์....
หลังจากขับ ATV เสร็จแล้วยังพอมีเวลาเหลืออีกนิดหน่อยก่อนจะค่ำเราเลยไปกันต่อที่น้ำตกสาริกาครับ...
"น้ำตกสาริกา" เป็นน้ำตกในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และเป็นน้ำตกขนาดใหญ่สายน้ำไหลตกจากหน้าผาเป็นทอด ๆ ถึง 9 ชั้น ผาที่สูงที่สุดประมาณ 200 เมตร แต่ละชั้นมีอ่างรับน้ำ นอกจากนี้ยังขึ้นเป็นมรดกโลกด้วยนะครับ...
แล้วก็ลงข้างล่าง
กว่าจะถึงเล่นเอาหอบไปทีเดียว...แต่เราก็เดินมาถึงจนได้
สำหรับทริปนี้เราคงต้องลากันไปก่อนนะครับ ไว้ทริปหน้าเราจะสรรหาสถานที่เที่ยวมาฝากกันใหม่...
รถ ATV นี่... อยู่ตรงไหนอ่อคะ?
ตอบลบอยู่ก่อนถึงวังตะไคร้ครับ หาไม่ยากครับ อยู่ริมถนนเลย
ตอบลบ