
บางปู ดูทะเล...
บางปูเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี สำหรับหลบไปพักผ่อนเนื่องจากระยะทางใกล้ไม่ไกลเกินฝัน แล้วมีเหรอเราจะยอมพลาดสถานที่น่ารักแบบนี้ไป แต่เราแอบเสียดายนะครับที่ตอนนี้นกนางนวลบินจากไปแล้ว...(ถ้าใครอยากไปเจอนกนางนวลต้องไปก่อนเดือนพฤษภาคมนะครับ)
สำหรับทริปนี้เป็นทริปง่ายๆแค่ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงไปพักสมอง การเดินทางก็ง่ายมากครับ...
เราเดินทางจากเส้นถนนประชาอุทิศ (ฝั่งธน) ขึ้นนี่ไปเลยครับสะพานวงแหวนอุตสหกรรม ระหว่างทางก็ชมวิวไปเรื่อย...แล้วก็วิ่งเข้าเส้นปู่เจ้าสมิงพราย วิ่งไปเรื่อยๆจะเจอทางแยกไปบางนา กับสมุทรปราการเราเลี้ยวไปสมุทรปราการเลยครับ...แล้วก็วิ่งตรงไปเรื่อยๆ..
เจอช้างสามเศียรแล้วครับ ถ้าออกเช้ากว่านี้หน่อยน่าแวะอยู่เหมือนกัน ข้างในมีสถานที่ให้แวะเยี่ยมชมด้วย แต่คราวนี้คงต้องเอาไว้ก่อนเพราะออกมาก็บ่ายคล้อยเต็มที่
ตรงต่อไปเรื่อยๆ ผ่านฟาร์มจรเข้อันนี้ก็น่าสน ใจจริงอยากจะแวะไปเยี่ยมไอ้เข้เหมือนกันแต่ไม่มีรอบแสดงไอ้เข้ ตอนเราผ่านไปเลยตัดสินใจไปบางปูที่เดียวเลยครับ
สำหรับเพื่อนๆ ที่เลือกเดินทางไปด้วยรถสาธารณะก็มีหลายเส้นทางให้เลือกนะครับ เท่าที่เรารู้ก็จะมีรถเมล์สาย 142,102 ต่อมาลงที่ตลาดปากน้ำแล้วต่อรถเมล์เล็กสาย 36 จากนั้นต่อรถสองแถวปากน้ำ วัดตำหรุ, ปากน้ำ-นิคมบางปู และปากน้ำ-คลองด่าน แ ละไปลงปากทางเข้าบางปูได้เลยครับ
เมื่อใกล้จะถึงสถานพักตากอากาศบางปูเราจะเห็นกังหันเยอะมากครับ...
ถึงแล้วครับบางปู...
ตรงทางเข้านกบินต้อนรับเป็นฝูงเชียวครับ ที่นี้น่ารักอยู่อย่างตรงที่ไม่มีการเก็บค่าเข้าเยี่ยมชมใดๆเลย เพราะเป็นพื้นที่ของกองทัพบก
สถานตากอากาศบางปู เกิดขึ้นในปี พ.ศ.2480 โดยเป็นการริเริ่มของจอมพล ป.พิบูลสงคราม อดีตนายกรัฐมนตรีที่ต้องการ ให้มีสถานที่พักผ่อนสำหรับประชาชนทั่วไปสักแห่งหนึ่ง ที่ไม่ไกลจากเมืองหลวงมากนัก โดยผู้มีอันจะกินในสมัยนั้น นิยมมาใช้บริการกันเป็นจำนวนมาก...
สะพานสุขตา เป็นทางเดินยาวลมเย็นๆ เดินชมวิวเล่นชิวๆได้สบายใจนักแหละครับ เหมาะกับการเดินทอดอารมณ์จริงๆ
เดินมาอีกหน่อยจะเจอการปลูกป่าโกงกางไว้ด้วย...
แผงไม้ไผ่ทำไว้กันการกัดเซาะแนวตลิ่ง...
แนวยาวไปไกลสุดลูกหูลูกตา...
สะพานสุขตาทอดแนวยาวให้เดินชมวิว...
ป่าชายเลนยามน้ำลด พื้นที่ทุกตารางเมตรเต็มไปด้วยปลาตีนแลดูน่าเอ็ดดู...
นกกระยางคอยจ้องหาปลาตีนดวงตก เป็นอาหารเย็น...
เสียดายที่กล้องของเราเป็นแค่กล้องพกพา ไม่ใช่กล้องที่สามารถซูมให้เห็นปลาตีนได้ พยายามเต็มที่ได้เท่านี้ครับ...
แต่รับรองได้เลยว่ายืนมองปลาตีนได้เพลินแน่ครับงานนี้ เพราะมากมายจริงๆ เราว่าปลาพวกนี้เค้าสู้ชีวิตดีนะครับ ใครๆจะนินทาว่าเป็นสัตว์ต่ำต้อย ด้อยค่าแค่ไหนชั้นก็ไม่สน ยังยืนหยัดต่อสู้ชีวิต ถึงแม้ว่าลมจะพัด แดดจะร้อน ศัตรูจะคอยกิน ก็ยังยืดอกโชว์หุ่นเท่ห์ให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมในความหล่อเหลา...
เดินชมวิวมาเรื่อยจะเจอศาลาสุขใจ ภายในจะมีร้านอาหาร ร้านค้าขายของที่ระลึก ฟลอร์เต้นรำ ไว้บริการด้วย...
บูทนี้จัดไว้ให้ชื่นชมพระบารมีครับ...
ศรีสง่าคู่พระบารมี
นอกจากนี้ยังแบ่งพื้นที่ไว้ให้ถ่ายรูปเล่นด้วยครับ...
เข้าไปด้านในจะเจอฟลอร์เต้นรำตรงจุดนี้เราสนใจกันมากครับ เพราะเป็นพื้นที่สำหรับนั่งทานอาหารไปด้วยและเต้นลีลาศได้อีก ตรงจุดนี้จะมีพวกรุ่นใหญ่นั่งกันเสียส่วนมากครับ...
แต่ละคนเต้นรำกันสนุกสนาน พลิ้วมากเลยครับ...
ดูจนเพลินตากันเลยทีเดียว....
ผ่านฟลอร์เต้นรำมาแล้ว จะเจอร้านอาหารทะเลที่มีโต๊ะให้นั่งทานอาหาร และละเลียดบรรยากาศไปด้วยครับ...
มัวแต่เดินดูโน้น ดูนี่มาจนเหนื่อยแล้วท้องเริ่มร้อง ก็เลยเอากะเค้าหน่อย...
ข้าวผัดปู...
ต่อด้วยหมึกทอดกระเทียม
ตบท้ายด้วยหม้อไฟต้มยำปลากะพง
ระหว่างนั่งกินไปกูนั่งรอพระอาทิตย์ตกดินไป...
ตอนนี้ประมาณห้าโมงเย็นเกือบหกโมงแล้วครับ...
น้ำเริ่มขึ้น...
ขึ้นอีก...
และแล้วเฆมก็ทำพิษ บังสะมิดเลย...
เจ็บใจนัก ทำกันได้... อิ่มแล้วก็ออกมาเดินเล่นตากลมสักพัก...
วันนี้เหนื่อยแล้ว ไว้เจอกันทริปหน้านะครับ...
บางปู ::
ตอบลบเป็นสถานที่ที่ทำให้เราได้กลับไปสู่ "อดีต" ของสถานที่ & การณ์เวลาที่ผ่านมา ดูแล้วทำให้นึกถึงบรรยากาศที่ สบายๆ เรื่อยๆ ผู้คนพึ่งพากัน ดูแล้วน่ารัก และอบอุ่นจิงๆ มีเต้นรำ (ลีลาศ) ด้วย น่ารักจัง ^ ^
ว่าแต่ ไปเที่ยวทริปนี้ ดูท่าอากาศจะร้อนไปหน่อย แต่ภาพที่ถ่ายออกมาก็ดูได้อารมณ์ไปอีกแบบ
ทริปต่อไป ไปไหนกันเนี้ย ยังไงก็จะติดตามไปดู "my-traveler" นะจ๊ะ (โมทย์-ยุ้ย) ^ ^