อยุธยา เมืองเก่าของเราแต่ก่อน....
สวัสดีวันปีใหม่ครับเพื่อนๆ วันนี้เป็นวันแรกของปี พ.ศ.2553 ที่สำคัญยังเป็นวันหยุดพักผ่อนยาวอีกด้วย วันเริ่มแรกของปีแบบนี้คงต้องหาอะไรที่เป็นสิริมงคลทำกันแล้ว....
ทริปนี้เพื่อความสะดวกเพราะจากบ้านออกเที่ยงๆ และกลับเข้ากรุงเทพเย็นๆ เราจึงขับรถไปกันเองครับ โดยใช้เส้นทางถนนวิภาวดีรังสิต หรือทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 31 ขับตรงไปเรื่อยๆ หาไม่ยากเลยครับสามารถอ่านป้ายไปได้ตลอดทาง โดยระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร อันนี้วัดจากฝั่งธนไปถึงวัดพระศรีสรรเพชญ์นะครับ
รูปนี้เป็นน้องๆที่รำต้อนรับอยู่หน้าบริเวณวัดพระศรีสรรเพชญ์ครับ
เนื่องจากวันนี้เป็นวันขึ้นปีใหม่คนเลยพร้อมใจกันมาไหว้พระกันเพียบเลยครับ ทำให้บรรยากาศในบริเวณวัดคับคั่งไปด้วยผู้คนจำนวนมาก รถเลยติดตั้งแต่หน้าวัดและมีหางขบวนยาวไปไกลเลยครับ เราเลยต้องปรับเปลี่ยนแผนคือจากที่จะขับรถตะเวนไหว้พระไปเรื่อยๆ เป็นแวะเดินเล่น เก็บบรรยากาศและไหว้พระตามที่เราจะสามารถไหว้ได้
บรรยากาศหน้าพระอุโบสถวัดพระศรีสรรเพชญ์
เมื่อสักการะพระศรีสรรเพชญดาญาณเรียบร้อยแล้ว เราจึงเดินทางเข้าไปในบริเวณอุทยานประวัติศาสตร์วัดพระศรีสรรเพชญ์ มาในบริเวณนี้ลองจิตนาการเล่นๆดู ขนาดผ่านเวลามาเป็นเกือบ 300 ปีที่พม่าเข้ามาเผาทำลายวัด ยังเห็นได้ถึงความเจริญรุ่งเรือง สวยงาม และอลังการ พูดแล้วเสียดายจริงๆครับ
หากมองไม่เห็นภาพว่าเมื่อก่อนสมัยที่วัดมีความเจริญรุ่งเรื่องเป็นอย่างไรให้ลองนึกภาพของวัดพระแก้วดูครับ เพราะจากประวัติบอกเอาไว้ว่ารัชกาลที่ 1 ได้สร้างวัดพระแก้วมาจากต้นแบบคือวัดพระศรีสรรเพชญ์ อีกทั้งยังเอากฎบางอย่างมาใช้กับวัดพระแก้วด้วย เช่นในวัดไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา...
พระเจดีย์ใหญ่ 3 องค์ ภายในวัดพระศรีสรรเพชญ์
รูปต่อไปบอกตรงเลยครับ เห็นแล้วสะท้อนใจมากชาวพุทธด้วยกัน ไม่น่าจะทำกันได้
น่าเศร้าไหมล่ะครับ
เมื่อเดินละเลียดบรรยากาศจนอิ่มใจแล้ว เราก้อออกเดินทางกันต่อเลยนะครับ เป้าหมายต่อไปของเราคือ วัดราชบูรณะ.... ระหว่างทางที่เราเดินมาที่จอดรถก็จะเจอกับพี่ช้างเยอะแยะเลยครับ ไปเดินมาให้นักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศถ่ายภาพหรือขึ้นไปนั่งชมวิวรอบบริเวณคูเมือง สำหรับใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศก็ลองไปสัมผัสกันได้นะครับ มีทั้ง ช้าง ม้า และสามล้อพาเที่ยวรอบเมืองเลย แต่อย่างเราขอใช้ยามาก้าว(เดิน)เอาดีกว่าครับ...
เดินมาอีกนิดก็จะเจอคุ้มขุนแผน สำหรับคุ้มขุนแผนเราเห็นจำนวนคนที่เข้าไปแล้ว เราขอเลี่ยงไม่เข้าดีกว่าครับ เพราะวันนี้คนเยอะมากจริงๆแต่ก็ไม่ลืมถ่ายรูปหน้าคุ้มมาไว้เป็นที่ระลึกนะครับ
ขับรถมาอีกหน่อยก็จะเจอวัดราชบูรณะแล้วครับ วัดราชบูรณะตั้งอยู่ที่ตำบลท่าวาสุกรีบริเวณเชิงสะพานป่าถ่าน ซึ่งวัดนี้เป็นวัดที่ใหญ่และมีความเก่าแก่มากที่สุดในอยุธยา และถูกสร้างขึ้นโดยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 (เจ้าสามพระยา) วัดราชบูรณะมีชื่อเสียงและดังมากในเรื่องการถูกขุดขโมยสมบัติ ซึ่งมีกลุ่มคนร้ายลักลอบเข้ามาขุดเจาะพระปรางค์ประธาน ในปี พ.ศ.2499 และขโมยสมบัติจำนวนมากมายมหาศาสหลบหนีไป ต่อมากรมศิลปากรเข้าทำการบูรณะภายหลัง จึงพบสมบัติที่เหลือและเครื่องทองจำนวนมากมาย ปัจจุบันทรัพย์สมบัติภายในกรุถูกเก็บรักษาไว้ที่ห้องราชบูรณะภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา
ป้ายหน้าวัดครับ
พระปรางค์ประธาน วัดราชบูรณะ
บริเวณภายในวัดราชบูรณะ
พระปรางค์วัดราชบูรณะมีกรุใหญ่และลึกมาก โดยเปิดให้เข้าไปเยี่ยมชมได้ตามปกติ และแบ่งเป็น 4 ห้องใหญ่ๆ เรียงกันลงไปแนวดิ่ง โดยชั้นล่างสุดอยู่ในแนวระดับพื้นดิน
จิตกรรมฝาผนังภายในพระปรางค์วัดราชบูรณะ โดยพบได้จากกรุชั้นที่ 1 จะเห็นได้ว่าภาพได้ลบเลือนไปจนเกือบหมดแล้ว
ภายในบริเวณกรุชั้นที่ 1
ทางลงกรุครับมีทั้งหมด 4 ชั้น
เนื่องจากเรากลัวที่แคบเลยลงไปได้แค่กรุชั้นที่ 1 เท่านั้นเองครับไม่กล้าลงไปลึกกว่านั้นเพราะภายในเล็กและแคบมาก และถึงแม้ว่าภายในจะมีเครื่องระบายอากาศอย่างดีแต่ก็ยังรู้สึกหายใจไม่สะดวกอยู่ดี...
สถาปัตยกรรมรอบๆ พระปรางค์วัดราชบูรณะ
วันนี้เราเดินเล่นกันจนเย็นเลยครับ ชมวัดเก่าและไหว้พระเพื่อเป็นมงคลชีวิตในวันปีใหม่ ถ้าเพื่อนท่านใดวางแผนจะไปเที่ยวอยุธยาเหมือนเราสามารถไปได้หลายช่องทางนะครับหนทางสะดวกไม่ยุ่งยากเลย หากไม่นำรถส่วนตัวไปก็สามารถไปนั่งรถตู้ที่อนุเสารีย์ใช้เวลาประมาณสี่สิบห้านาทีก็ถึงแล้ว ค่ารถตู้อยู่ที่ 60 บาทเท่านั้นเองครับ และเมื่อไปถึงแล้วก็สามารถหาเช่าจักรยาน หรือมอเตอร์ไซต์ขับเล่นรอบเมืองได้เลยครับ
สวัสดีปีใหม่อีกครั้งนะครับ แล้วจะหาทริปต่อไปมาฝากอีกนะครับ....
เพิ่งไปมาเหมือนกันเมื่อวันที่25-26ธันวาอ่ะ น้องบอยสุดหล่อ
ตอบลบเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น "ปั้นน่วมทัวร์" แล้วเหรอ
ตอบลบน่าสนุกจังค่ะ พี่ยุ้ยก็น่ารัก แล้วหาที่เที่ยวมาลงอีกนะค่ะ
ตอบลบรูปเยอะมาก.....
ตอบลบสวยๆทั้งนั้น......
อยากไปแล้วอ่ะดิ อิอิ.......
จะเปิดบริษัททัวร์หรอครับ คุณปราโมทย์
ตอบลบเข้ามายืนยันว่าข้างในวัดราชบูรณะแคบและอึดอัดจริงๆ
ตอบลบลงไปได้แต่กลิ่นธูปเทียน + ไอน้ำมัน
อยุธยาเคยไปเหมือนกัน เมื่อสองปีที่แล้วถ้่าจำไม่ผิด
ไปนอนค้างคืนนึงแล้วก็กลับ (เพื่อนถามทำไมมึงต้องค้าง?)
ก็เพราะแบบนั้นไง คนส่วนใหญ่เลยไม่ค่อยได้เห็นอยุธยาในตอนกลางคืน ว่ามันสวยมากแค่ไหน
วัดเก่าแต่ละที่จะเปิดไฟประดับตกแต่ง ทำให้โบราณสถานแต่ละที่โดดเด่นออกมา
ตัดกับความเงียบของเมืองและความมืดของถนน โหย...สวยเหอะ พลาด
ปล.ทำไมป้าที่นั่งถ่ายรูปตรงนั้นหน้ามันแผล่บแบบนั้นล่ะ 55
นึกว่าน้อง ๆ จะเปิด บริษัททัวร์ ซะอีก แต่ถ่ายรูปออกมาสวยมากเลย นางแบบ & นายแบบ ต้องใส่อารมณ์อีกสักนิดนะ หรือว่าไม่คึกเพราะไม่มีทีม
ตอบลบงานหน้ากล้องอยู่ด้วยจ๊ะ.O_0!
พี่ 1