เวียดนาม
ทริปนี้เราไปตะลุยเวียดนามกับครับ หลังจากปรึกษาหาสถานที่เปิดโลกใบน้อยๆของเรา และสำรวจงบประมาณอันน้อยนิดของเรา จึงตกลงกันใจเดินทางไปสำรวจประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงกัน ใกล้ๆนี่เองครับ คราวนี้เราลองเปลี่ยนบรรยากาศบินไปกับนกน้อยสีเหลือง (นกแอร์) กันบ้าง


Day 1 : เราเดินทางไปกับนกแอร์ด้วยเที่ยวบินที่ 8.45 น.ครับ ไปถึงสนามบินนอยใบของเมืองฮานอยราว 9 โมงเกือบๆสิบโมงแล้วครับ วันทีเราไปถึงอากาศเย็นมากๆ โอ้วว้าว...โชคดีจริงๆ คือเวลาผมไปเที่ยวจะชอบให้อากาศเย็นๆมากกว่าอากาศร้อนครับเพราะเวลาเดินดูของหรือแบกเป้หนักๆเดินจะสบายกว่าตอนอากาศร้อน เราวางแผนกันไว้ว่าทริปนี้จะนั่งรถเมล์กะเดินเอาเท่านั้นครับ พอมาถึงสนามบินเราก็เดินออกมารอรถเมล์เพื่อเข้าเมืองฮานอยกันครับ

บรรยากาศในสนามบินนอยใบ

ป้ายรถเมล์อยู่ไม่ไกลจากสนามบินครับเดินประมาณ 200 เมตร ก็ถึงแล้ว...เอ้อส่วนเรื่องการแลกเงินแนะนำให้แลกเงินบาทกับดอลล่าห์ติดกระเป๋าไว้ครับ ส่วนเงินดองสามารถแลกได้ที่สนามบินเลยครับหรือไม่ก็ไปแลกที่ในย่าน Old Quarter ก็ได้ ค่ารถเมล์ 5,000 ดอง หรือประมาณ 11 บาท ครับ (ตอนที่เราไป 1 บาท เท่ากับ 437 ดอง ครับ ตอนนี้อัตราเงินเวียดนามถูกลงกว่าเดิม)

บนรถเมล์ของเวียดนามครับ

ห้องพัก Prince hotel

เก็บของในห้องพักเรียบร้อยแล้วเราก็เดินเล่นแถวบริเวณเขต Old Quarter เพื่อมาชมความงามขอทะเลสาป คืนดาบ (Ho Hoan Kiem) และวัดหง๊อกเซินกันครับ ช่วงนี้บรรยากาศกำลังดีมากๆอากาศไม่ถึงยี่สิบองศาทำให้มีหมอกสวยงามเชียวครับ (ระยะทางไม่ไกลเลยครับสามารถเดินเล่นได้ลักษณะบริเวณนี้เป็นเหมือนวงเวียน) นั่งรถเมล์ชมวิวสองข้างทางประมาณเกือบๆชั่วโมงก็จะถึงเขตที่จะต้องลงรถเมล์เพื่อนจะต่อไปที่ Old Quarter ระหว่างทางเราเจอสองสาวฝาแฝดชาวเยอรมันบนรถเมล์เลยชวนกันแชร์ค่าแท็กซี่ไปที่ Old Quarter คิดเป็นเงินไทยประมาณคนละสิบบาทครับ... เมื่อเรามาถึง Old Quarter ตอนแรกในใจกะว่าจะพักที่โรงแรม bamboo hotel แต่ในตอนนั้นเค้ากำลังปรับปรุงภายในใหม่บางส่วน จึงเปลี่ยนใจเดินหาโรงแรมไปเรื่อยๆ จนมาถูกใจที่ Prince hotel ในสนนราคาคืนละ 12 ดอลลาร์ แต่เราต่อลองว่าจะพักสามคืนขอลดในราคา 10 ดอลลาร์ ต่อคืนได้ไหม สรุปว่า o.k ครับ สภาพในห้องก็ถือว่าใช้ได้เลยครับ มีน้ำอุ่น,2 เตียงนอน,แอร์

สำหรับเพื่อนๆที่กังวลเรื่องห้องพักเราแนะนำว่าให้เดินดูสภาพห้องจริงเลยครับ ไม่จำเป็นต้องจองผ่านอินเตอร์เนตและไม่ต้องกลัวว่าจะหาโรงแรมไม่ได้เพราะที่นี่มีหลากหลายให้เลือกตามความพอใจ ในราคาตั้งแต่ระดับพื้นจนถึงระดับแพงเลยทีเดียว แถวนี้ก็ประมาณถนนข้าวสารบ้านเรานั้นแหละครับ...

บรรยากาศบริเวณหน้าโรงแรมครับ

ทะเลสาบคืนดาบ (Ho Hoan Kiem) มีตำนานเล่าต่อมาว่าครั้งอดีต พระเจ้าเลไทโต (Le Thai Yo) ได้นำดาบวิเศษมาต่อสู้กับพวกหมิง จนสามารถปลดปล่อยประเทศให้อิสระ และเมื่อสำเร็จแล้วพระองค์ทรงไปตรงกลางทะเลสาบเพื่อคืนดาบวิเศษให้กับเต่าศักดิ์สิทธิ์ และเต่าได้ขึ้นมาฉกดาบไปจากพระหัตถ์ของพระองค์ และดำหายไปในทะเลสาบ ทำให้มีชื่อทะเลทะเลสาบคืนดาบตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ตึกนี้อยู่ตรงข้ามกับทะเลคืนดาบ เป็นมุมยอดฮิตของที่นี่วิวทะเลสาบคืนดาบ


อากาศดีมากครับหมอกลงจางๆสวยอย่าบอกใครเลยทีเดียว รอบๆทะเลสาบคืนดาบนอกจากจะวิวทิวทัศน์สวยแล้ว มีอีกสิ่งที่เราเห็นแล้วตกใจเลยครับ สิ่งที่น่าแปลกคือรอบๆทะเลสาบจะมีหนุ่มสาววัยกระเต๊าะนั่งจีบกันอยู่จนเต็มไปหมด...แต่บางคู่ไม่ได้แค่นั่งจีบกันธรรมดานะครับ เอาเป็นว่าเราบางคู่เราเห็นแล้วหน้าแดงแล้วแดงอีก บอกตรงๆครับอายแทนจริงๆ... มิน่าเค้าถึงลงข่าวกันว่าอัตราการทำแท้งของเด็กสาวประเทศนี้สูงเป็นอันดับต้นๆของเอเชีย... เดินมาอีกหน่อยก็มาเจอวัดหง๊อกเซินครับ


หลังจากเดินเล่นจนเหนื่อยแล้ววันนี้เราวางแผนจะไปชมหุ่นกระบอกน้ำอันลือชื่อกันครับ... สถานที่ชมก็ไม่ไกลกันครับเดินไปเรื่อยๆอยู่อีกฝั่งของทะเลสาบเท่านั้นเองครับ ราคา 20,000 ดองครับ ประมาณเกือบๆ 50 บาท สำหรับตั๋วชมหุ่นกระบอกจะมีสองราคานะครับ เป็นด้านหน้ากับด้านหลังราคาต่างกันครึ่งหนึ่งครับ

ตั๋วชมหุ่นกระบอกน้ำครับ

คณะนักดนตรีเล่นประกอบการแสดงหุ่นกระบอกน้ำ

การแสดงเริ่มแล้วครับ แต่ละชุดจะเป็นการแสดงถึงวีถีชีวิตประจำวันและการละเล่นของชาวเวียดนามครับ


Subscribe
รบกวนช่วยกด Subscribe เพื่อเป็นกำลังใจด้วยน่ะครับ

ตอนจบของการแสดงจะให้คณะเชิดหุ่นทั้งหมดออกมาร้องเพลงต่อหน้าผู้ชมด้วยครับ

โดยรวมๆแล้วการแสดงน่าตื่นตาตื่นใจดีครับ และแสดงถึงวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของชาวบ้านจริงๆได้อย่างน่าประทับใจ

เดี๋ยวเราต้องอาหารทานแก้หิวกันแล้วครับเพราะมัวแต่เดินหาที่พัก เดินเล่น ชมนกชมไม้อยู่นานเริ่มหิวเสียแล้ว ไปทานด้วยกันนะครับ...


เฝอเวียดนามของแท้เชียวครับ จานใหญ่มากกกกกก...อร่อยใช่ได้ทีเดียว อิ่มแล้วเดี๋ยวเราจะไปเดินช้อปปิ้งตลาดนัดกลางคืนแถวตลาดดองซวนกัน สามารถเดินถึงกันได้ครับบริเวณนี้ไม่ไกลกันเลย...

ไม่รู้เค้าเรียกว่าอะไรนะครับ มันเป็นหมูผสมพริกไทย พริกป่น และเครื่องเทศหลายๆอย่างๆรสชาติอร่อยดีครับ

อันนี้เป็นขนมปังฝรั่งเศสอร่อยดีเหมือนกันครับ


ตบท้ายด้วยของหวานสะหน่อย อร่อยดีครับคล้ายๆน้ำแข็งไสบ้านเราแต่ไม่ใช่สะทีเดียวกลิ่นจะหอมๆอร่อยครับ

วันนี้เดินเล่นและชิมโน้นนี่นั้นจนอิ่มอกอิ่มใจแล้ว กลับโรงแรมนอนเอาแรงเดี๋ยวพรุ่งนี้เราต้องไปตะลุยฮาลองเบย์กันครับ โดยจองทัวร์ของโรงแรมที่เราพักนั้นแหละครับ คือโรงแรม Prince hotel (ของเราพัก Prince hotel) ในราคาคนละ 16 ดอลล่าร์ ต่อคนครับ (1 day trip)และราคานี้รวมค่าอาหารเที่ยงด้วย โดยรถทัวร์เล็กจะมารับหน้าโรงแรมตอน 7.00 น. ครับ วันนี้ขอตัวไปพักผ่อนตุนแรงไว้เที่ยวพรุ่งนี้ก่อนครับ... ฮาลองเบย์มีหลากหลายแพ็คเกจให้เลือกได้นะครับ โดยบริษัททัวร์ต่างๆจะแบ่งไว้ให้เลือกตามความพอใจ เท่าที่เราดูมาคร่าวๆคือ "ฮาลองเบย์เช้า-เย็นกลับ, ฮาลองเบย์นอนบนเรือ, ฮาลองเบย์และต่อไปพักบนเกาะ catba, ฮาลองเบย์กลับมาพักบนฮาลองซีตี้.

ไม่มีความคิดเห็น: